วันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2551

วิธีรับมือกับ GAT และ PAT

1.ตารางอ่านหนังสือ
แนะนำให้ทำไว้กันแล้ว ได้เวลาที่จะต้องใช้มันจริงๆแล้วล่ะ ให้เราหาหนังสือที่จำเป็นกับการสอบ แล้วคิดว่า เราจะได้ความรู้จากมันอย่างเต็มที่จริงๆ ส่วนเล่มอื่นเก็บเข้ากรุ เตรียมเอาไปให้รุ่นน้องได้เลย ให้บวกจำนวนหน้าหนังสือทุกเล่ม [ย้ำว่าทุกเล่มที่เราคัดมาแล้วว่าจะอ่าน] จากนั้นก็หารด้วยจำนวนวันที่เหลือ เพื่อหาจำนวนหน้าเฉลี่ยที่จะต้องอ่านให้ได้ภายใน 1 วัน จากนั้นก็ลงมืออ่านได้เลย
2.ทำข้อสอบเก่าเยอะๆ
เป็นสิ่งสำคัญมากๆ หากเราอ่านหนังสืออย่างเดียว โดยไม่ที่ไม่ทำโจทย์ เราก็จะขาดทักษะในการคิดวิเคราะห์ข้อสอบ ไม่รู้จุดหลอก จุดตายในข้อสอบ เวลาสอบอาจจะทำให้เราตายสนิทได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้น ข้อสอบเก่าๆสำคัญมากๆ หาโหลดได้ตามเว็บไซต์ หรือไม่ก็ซื้อตามร้านขายหนังสือก็ได้ ที่แนะนำก็คือ อย่างน้อยต้อง 10 พ.ศ.ขึ้นไปนะ
3.Short Note
การอ่านหนังสือโดยไม่จดอะไรเลย เหมือนกับการอ่านเชิงรุกอย่างเดียว เพราะฉะนั้น อีกมือหนึ่งควรจดสาระสำคัญไปด้วย เราจะได้ไม่ต้องเมื่อมาเปิดดูในหนังสือใหม่อีกรอบ

4.เรียนกวดวิชา [ในบางกรณี]
ช่วงนี้ใครมีเงินก็คงจะต้องเฮโลไปเรียนกวดวิชากันหมดแหละ ซึ่งจะบอกว่าแพงเอามากๆ แต่ก็คุ้ม ถ้าเรียนแล้วรู้เรื่อง[การศึกษาคือการลงทุนระยะยาวครับ] กวดวิชาแต่ละที่ย่อมมีดีแตกต่างกัน เพราะฉะนั้น พูดได้คำเดียวว่า ต้องตั้งใจเรียนเท่านั้น มีการบ้านก็ต้องทำ เพื่อให้เข้าใจเนื้อหาได้รวดเร็ว คนที่อยากเรียน ช่วงนี้น่าจะเรียนคอร์สเอนทรานซ์ได้แล้วนะ
5.ติดตามข่าวสาร
อย่างที่รู้กัน การสอบครั้งนี้เป็นระบบใหม่ เพราะฉะนั้นการติดตามข่าวสารถือว่าสำคัญมากๆ ไม่งั้นเราอาจจะพลาดสิ่งสำคัญบางสิ่งไปโดยที่ไม่รู้ตัว อย่าลืมตามข่าวกันด้วยนะ
6.ยกเลิกการเล่นเกม อินเทอร์เนตไปได้เลย
ตอนนี้เป็นช่วงของการเตรียมตัวสอบแบบเต็มรูปแบบแล้วนะครับ เพราะฉะนั้นอะไรก็ตามที่ทำให้เราอ่านหนังสือไม่ได้ เลิกได้ก็คงต้องเลิกแล้วหล่ะ อินเทอร์เนตคงเปิดได้เฉพาะช่วงทำรายงานเท่านั้น [ฟังดูโหดร้ายดีจัง]

7.เสียสละความสุขส่วนตัว
ดูหนัง ฟังเพลง ไปเที่ยวกับเพื่อน อาจจะต้องถูกเลื่อนออกไปก่อน เพื่อให้เวลาเราได้อ่านหนังสืออย่างเต็มที่ ถ้าใครขาดไม่ได้ ก็ลดการเที่ยวเล่นให้น้อยลงก็พอ
8.อย่าเรียนพิเศษเพลิน อย่าลืมว่ามีอีกหลายวิชาที่ต้องอ่าน
อย่าเสียเวลาไปกับการเรียนกวดวิชาเพียงวิชาเดียว อย่าลงคอร์สที่ใกล้จะสอบเกินไป เพราะจะทำให้เรามีเวลาอ่านวิชาอื่นน้อยลง อย่าคิดว่า ลงเรียนทุกวิชาแล้วมันจะได้ผล เพราะอาจจะทำได้ไม่ดีทั้งหมด ร่ายกายเราจะล้าเกินไป
9.ผลัดกันติวกับเพื่อน
เราจะได้ทราบความคิดเห็นที่แตกต่างของเพื่อนเรา บางทีเพื่อนอาจจะรู้ในสิ่งที่เราไม่รู้ เราจะได้ไม่ไปพลาดในห้องสอบไงล่ะครับ อาจจะมีวันพิเศษ พลัดกันติวภายในห้องก็ได้ ซึ่งเป็นความคิดที่ดีมากๆเลย
10.หมั่นทบทวนความรู้อยู่เสมอ
ว่างๆก็อาจจะนำวิชาที่ตัวเอง Short Note ลงไป กลับขึ้นมาอ่านก็ได้ หรือไม่ก็หยิบโพสต์อิทที่แปะไว้ตามหน้าหนังสือมาอ่านดู เพื่อทบทวนความรู้ที่ตัวเองได้เรียนไปแล้ว ควรฝึกเป็นประจำทุกวัน ทนเหนื่อยหน่อย เพื่ออนาคตของเรา

11.ตั้งใจเรียนในห้องให้มากๆ
เกรดเป็นสิ่งที่สำคัญในการสอบ Admission ครั้งนี้ เพราะใช้ถึง 20% เพราะฉะนั้นเราจะประมาทไม่ได้เลย ขยันเรียนในห้องให้มากๆ ตั้งใจส่งงาน ทำข้อสอบในโรงเรียน เกรดดีๆก็จะไม่หนีเราไปไหน...

วันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

วันพ่อนานาชาติ

วันพ่อของแต่ละประเทศ...ตรงกับวันที่เท่าไหร่บ้าง?

19 มีนาคม โบลิเวีย ฮอนดูรัส อิตาลี ลิกเตนสไตน์ แอนโดรา โปรตุเกส สเปน

5 พฤษภาคม โรมาเนีย

8 พฤษภาคม เกาหลีใต้

วันอาทิตย์แรกของเดือนมิถุนายน ลิทัวเนีย

5 มิถุนายน เดนมาร์ก

วันอาทิตย์ที่สองของเดือนมิถุนายน ออสเตรีย เบลเยี่ยม

วันอาทิตย์ที่สามของเดือนมิถุนายน อาร์เจนติน่า แอนทิกัว บาฮามัส บังกลาเทศ บัลแกเรีย แคนาดา ชิลี จีน โคลอมเบีย คอสตา ริก้า คิวบา ไซปรัส สาธารณรัฐเชก เอกวาดอร์ ฝรั่งเศส กาห์นา กรีซ กายอาน่าฮ่องกง ฮังการี อินเดีย ไอร์แลนด์ จาไมก้า ญี่ปุ่น มาเลเซีย มอลต้า มอริเชียส เม็กซิโก เนเธอร์แลนด์ ปากีสถาน ปานามา ปารากวัย เปรู ฟิลิปปินส์ เปอร์โตริโก เซนท์ วินเซนต์ แอนด์ เกรนาดีนส์ สิงคโปร์ สโลวาเกีย แอฟริกาใต้ ศรีลังกา สวิตเซอร์แลนด์ ทรินิแดด แอนด์ โทเบโก ตุรกี สหราชอาณาจักร ยูเครน สหรัฐอเมริกา เวเนซูเอล่า ซิมบับเว บาร์เบโดส

17 มิถุนายน เอลเซวาดอร์ กัวเตมาลา

21 มิถุนายน ซีเรีย เลบานอน

23 มิถุนายน นิคารากัว โปแลนด์ อูกันดา

วันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนมิถุนายน ไฮติ

วันอาทิตย์ที่สองของเดือนกรกฎาคม อูรุกวัย

วันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนกรกฏาคม สาธารณรัฐโดมินิกัน

วันอาทิตย์ที่สองของเดือนสิงหาคม บราซิล

8 สิงหาคม ไต้หวัน

วันอาทิตย์แรกของเดือนกันยายน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์

วันอาทิตย์ที่สองของเดือนกันยายน ลัทเวีย

วันอาทิตย์แรกของเดือนตุลาคม ลักเซมเบิร์ก

วันอาทิตย์ที่สองของเดือนพฤศจิกายน เอสโทเนีย ฟินแลนด์ สวีเดน ไอซ์แลนด์

5 ธันวาคม ประเทศไทย



ทีนี้เรามาดูดีกว่าว่าแต่ละประเทศเค้ามีประเพณีอะไรในวันพ่อบ้าง?

ประเทศอาร์เจนติน่า
วันพ่อของประเทศอาร์เจนติน่าจะเฉลิมฉลองกันในวันอาทิตย์ที่สามของเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่บิดาแห่งอาร์เจนติน่า "โจเซ่ เดอ ซาน มาร์ติน" ได้เป็นพ่อ

ไต้หวัน
ในไต้หวัน วันพ่อไม่ได้เป็นวันหยุดพิเศษ แต่หากลองสังเกตในวงกว้างแล้ว ในวันที่ 8 สิงหาคม ก็คือวันที่ 8 เดือน 8 ของปี ในภาษาจีนกลาง (แมนดาริน) เลข 8 จะออกเสียงว่า "ปา" ซึ่งเสียงนั้นก็จะไปพ้องกับคำว่า ปา ที่แปลว่า "พ่อ" (ปาป๊านั่นเองค่ะ) ดังนั้น ชาวไต้หวันจึงนิยมเรียกวันที่ 8 สิงหาคมว่า "ปาป๊า เดย์ (วันพ่อ)"

เยอรมนี
วันพ่อในเยอรมนีไม่ได้มีการเฉลิมฉลองเหมือนกับวันพ่อในประเทศทางตะวันตกประเทศอื่น และที่นี่ไม่ได้เรียกวันพ่อว่าวันพ่อแต่มีคำอื่นที่มีความหมายเดียวกันใช้เรียกแทน

Vatertag มักนิยมเฉลิมฉลองกันใน Ascension Day (วันที่ 40 หลังวันอีสเตอร์ เป็นวันที่พระเยซูเสด็จขึ้นสวรรค์) และถือเป็นวันหยุดประจำชาติ บางทีก็เรียกกันว่า Men's day หรือ Gentlemen's day (Männertag,Herrentag) จะมีประเพณีที่ผู้ชายเท่านั้นต้องทำ คือ ประเพณีเข็นรถขึ้นภูเขา และในรถจะบรรจุไวน์หรือเบียร์ (ขึ้นอยู่กับแต่ละท้องถิ่น)

...ประเพณีวันพ่อของแต่ละท้องถิ่น แต่ละประเทศ ก็แตกต่างกันไป แต่สิ่งสำคัญ คือ วันพ่อก็ถือเป็นวันสำคัญสำหรับเราและพ่อ ที่จะได้แสดงออกถึงความรัก ความห่วงใยที่มีต่อกัน...



...อย่าลืมบอกรักพ่อกันนะคะ...

วันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

บริหารสมองด้วยวิธีง่ายๆ

เวลาทำงานหรือเรียนหนักๆ เราก็จะรู้สึกล้าสมองเป็นเรื่องปกติ สมองก็ต้องการการออกกำลังกายเหมือนกัน เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ พี่ปาล์มมีเคล็ดลับดีๆ ในการบริหารสมองมาฝาก

1.อาหารเพิ่มความจำ อยู่ในอาหารกลุ่มวิตามินบี เช่น นมพร่องมันเนย กล้วย ธัญพืชไม่ขัดสี ถั่วต่าง ๆ ผัก ผลไม้ ช่วยป้องกันสมองเสื่อม ความจำเลอะเลือน
- กลุ่มธาตุเหล็ก เช่น เนื้อสัตว์ อาหารทะเล มีผลต่อไอคิว ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองซีกซ้าย ซึ่งเกี่ยวกับระบบการคิด
- ไข่แดง ตับ ถั่วลิสง เนยถั่ว บำรุงเซลล์สมอง
- ปลาที่มีโอเมก้า 3 อาทิ ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน และปลาแมคคอเรล ช่วยป้องกันความจำเสื่อม


2.ออกกำลังเพิ่มความจำ การออกกำลังกายจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้เลือดนำออกซิเจนไปเลี้ยงสมองได้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ ควรออกกำลังกายให้หลากหลายประเภท เพื่อกระตุ้นการเรียนรู้ของสมองจากการฝึกฝนทักษะใหม่ ๆ เช่น การเดิน วิ่ง ขี่จักรยาน เต้นแอโรบิก หรือว่ายน้ำ เป็นต้น

3.นอนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง เซลล์ประสาทจะสื่อสารกันได้มากขึ้น ส่งผลต่อการเรียนรู้และความจำ4.บริหารสมอง อาทิ การเล่นหมากรุก หมากล้อม เล่นเกมคอร์สเวิร์ด ฯลฯ ซึ่งต้องใช้ความคิด เซลล์สมองจะเจริญเติบโตมากขึ้น ความสามารถในการจำก็จะดีขึ้นด้วย


...ทำได้ไม่ยากเลยนะคะ ขอให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดีทั้งกายและใจเลย ...

วันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2551

10 อันดับ อาหารอันตราย (ตอนจบ)

6.น้ำอัดลม สารตัวสำคัญที่มีอยู่ในโค้กก็คือกรดกำมะถัน (Phosphoric acid) ในด้านความเป็นกรดด่าง มันมีความเป็นกรดอยู่สูงมากพอที่จะละลายตะปูได้ภายใน 4 วันกรดที่สะสมอยู่ในร่างกาย ทำให้ยากที่จะทำให้น้ำหนักตัวลดลงได้


Image hosting by UpPicth.com


7.ชิ้นไก่เนื้อนุ่มไม่มีกระดูก ทำมาจากชิ้นส่วนของไก่ที่ไม่ใช้แล้ว น้อยมากที่จะทำมาจากเนื้อขาวจริงๆการรับประทานต่อครั้งโดยทั่วไป จะให้พลังงาน 340 แคลอรี่ 50% เป็นไขมันมีแป้งขนมปังผสมอยู่มาก จึงมีคาร์โบไฮเดรตอยู่สูง มีการเติมสารปรุงรส (MSG=Monosodium Glutamate) ทำให้ปวดศีรษะ

Image hosting by UpPicth.com

8.ไอศครีม มีไขมันอยู่สูงมาก (ขนาดปกติ 4 ออนซ์) มีไขมันเกินกว่า 50% ของไขมันที่แนะนำให้บริโภคต่อครั้งต่อวันมีคาร์โบไฮเดรตอยู่มาก เกือบ 40% ของคาร์โบไฮเดรตที่แนะนำให้บริโภคต่อครั้งต่อวันมีน้ำตาลอยู่มาก ทำให้มีความกระหายน้ำตาลมากยิ่งขึ้น เป็นสาเหตุทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่น

Image hosting by UpPicth.com

9.โดนัท โดยเฉลี่ยแล้ว จะให้พลังงานประมาณ 300 แคลอรี่ ในโดนัทหนึ่งชิ้นมีแป้งคาร์โบไฮเดรตอยู่มากกว่า 50% ของที่แนะนำให้บริโภคต่อครั้งต่อวัน มีเกลือโซเดียมอยู่สูงมาก ทำให้ร่างกายขาดน้ำได้



Image hosting by UpPicth.com

10.โปเตโต้ชิพ อาหารขบเคี้ยว การทอดโปเตโต้ชิพจะทอดกันที่อุณหภูมิสูงทำให้มีสารเคมีอะคริลิไมด์ (Acrylimides) ออกมา ซึ่งรู้จักกันดีว่า เป็นสารก่อโรคมะเร็งและทำลายประสาท


Image hosting by UpPicth.com

ขอบคุณที่มาจาก : http://www.eqplusonline.com/webboard.detail.php?topic=2165

วันอังคารที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2551

10 อันดับ อาหารอันตราย (ตอน1)

1.แฮมเบอเกอร์ แฮมเบอร์เกอร์ทำมาจากเนื้อส่วนที่เหลือที่แย่ที่สุดจากโรงฆ่าสัตว์ เนื้อส่วนใดที่ขายเป็นส่วนของมันไม่ได้แล้วจะกองอยู่ที่พื้น และนำมาบดทำเป็นเบอร์เกอร์ รวมทั้งกีบ กระดูก จมูก หูและส่วนอื่นๆของมัน เพราะว่าเบอร์เกอร์ทั้งหมดทำมาจากสัตว์ จึงสามารถขึ้นป้ายว่า เนื้อวัวแท้ (Pure beef)แฮมเบอร์เกอร์ทั้งหมดจะใส่สารปรุงรส (MSG=Monosodium Glutamate) ทำให้ปวดศีรษะและเกิดอาการแพ้ MSG เป็นสารเคมีที่ห้องปฏิบัติการทดลองใช้ช่วยทำให้สัตว์อ้วนขึ้น และท้ายที่สุดก็ทำให้ท่านอ้วนขึ้นด้วย อุตสาหกรรมปศุสัตว์ เป็นผู้ใช้ยาปฏิชีวนะมากที่สุดในโลก เพื่อใช้ในการหักล้างแบคทีเรียที่เป็นอันตรายในเนื้อ

Image hosting by UpPicth.com

2.ฮอทด็อก ฮอทด็อกทำมาจากเนื้อส่วนที่เหลือที่แย่ที่สุดจากโรงฆ่าสัตว์ เนื้อส่วนใดที่ขายเป็นส่วนของมันไม่ได้แล้วจะกองอยู่ที่พื้น และนำมาบดทำเป็นเบอร์เกอร์ รวมทั้งกีบ กระดูก จมูก สันจมูก หู เล็บและส่วนอื่นๆของมัน เพราะว่าฮอทด็อกทั้งหมดทำมาจากสัตว์ จึงสามารถขึ้นป้ายว่า เนื้อวัวแท้ (Pure beef) หรือ ทำจากไก่งวงแท้ 100%

Image hosting by UpPicth.com

3.เฟรนช์ฟราย เป็นอาหารที่มี “ความเป็นพิษสูง”การทอดเฟร้นช์ฟราย จะทอดกันที่อุณหภูมิสูง ทำให้มีสารเคมีอะคริลิไมด์(Acrylimides) ออกมา ซึ่งรู้จักกันดีว่า เป็นสารก่อโรคมะเร็งและทำลายประสาท

Image hosting by UpPicth.com

4.โอริโอ้ คุกกี้ ที่เด่นชัดมากก็คือ ส่วนของน้ำตาลมีอยู่สูงถึง 23 กรัมเลยทีเดียว ช็อกโกเล็ตนั้นเป็นสารอาหารรายการสุดท้าย นั่นหมายความว่า มีช็อคโกเล็ตประกอบอยู่น้อยมาก น้ำตาลปริมาณสูง ทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่นและเกิดริ้วรอยได้เร็วยิ่งขึ้น

Image hosting by UpPicth.com

5.พิซซ่า พิซซ่าในเชิงทางการค้าจะประกอบไปด้วยอาหารที่มาจากการตัดแต่งทางพันธุ์กรรม 5 ชนิด

-. เนยแท้ (cheese) เพียง 10% เท่านั้น

-. แป้งที่ผ่านการปรุงแต่งให้ขาวที่ได้ทำการฟอกสี ทำให้วิตามินและเกลือแร่ออกไปแล้ว แต่ได้ทำการเติมเกลือแร่สังเคราะห์ตามจำนวนโมเลกุลที่มันเคยมีอยู่เข้าไปใหม่

-ซอสมะเขือเทศ ทำด้วยสารที่คล้ายมะเขือเทศที่สร้างยาฆ่าแมลงของมันขึ้นมาได้เอง ในร่างกายของท่าน

-แป้งสาลีที่นำมาใช้เป็นแป้งชนิดที่มีการตัดแต่งทางพันธุ์กรรม -มีน้ำมันฝ้ายประกอบอยู่ด้วย ฝ้ายไม่ได้จัดเป็นพืชพวกอาหาร มันผ่านการสเปรย์ด้วยยาฆ่าแมลงที่ชาวไร่ใช้

Image hosting by UpPicth.com



...ไว้จะมาต่ออีก5ชนิดนะคะ...

วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2551

อาหารมื้อเช้าของชาวเอเชีย

อาหารเช้าแบบชาวญี่ปุ่น

Image hosting by UpPicth.com


Image hosting by UpPicth.com

อาหารเช้าในแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมนั้นจะมี ข้าว อาหารทะเล และของดองต่างๆเป็นหลัก แต่ก็ไม่ได้แตกต่างจากอาหารมื้ออื่นๆสักเท่าไหร่นัก สิ่งหนึ่งที่พิเศษออกไปคือ นัตโต หรือถั่วหมักชนิดหนึ่งของญี่ปุ่น ซึ่งนิยมรับประทานเป็นอาหารเช้า อาหารเช้าที่ทางร้านอาหารมักจะนำเสนอก็คือ ซุปเต้าเจี้ยว (มิโสะซุป) ข้าวสวยกับสาหร่าย หรือเครื่องเคียงอื่นๆ และด้วยเหตุนี้เองจึงเกิดมาตรฐานใหม่ๆในการเสิร์ฟอาหารเช้าของโรงแรมโดยนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ว่าจะต้องเสิร์ฟอาหารชุดประมาณนี้ และก็เป็นเรื่องปกติที่ชาวญี่ปุ่นจะนำเอาอาหารที่เหลือจากเมื่อวานมารับประทานเป็นข้าวเช้า อย่างไรก็ตาม อาหารเช้าสไตล์ตะวันตก อย่างขนมปังปิ้งกับไข่ดาว ก็นิยมรับประทานเป็นอาหารเช้าด้วยเช่นกัน และในขณะนี้ อาหารจำพวกซีเรียลก็กำลังเป็นที่นิยมอยู่ ส่วนเครื่องดื่มนั้น ในแบบดั้งเดิมจะนิยมดื่มชาเขียว แต่ในปัจจุบันเริ่มมีการหันมาดื่มกาแฟกันแล้ว


Image hosting by UpPicth.com


Image hosting by UpPicth.com

อาหารเช้าแบบชาวเกาหลี

อาหารเช้าของชาวเกาหลีมักมีข้าว ซุป ผักปรุงรสต่างๆ กิมจิ (ผักดองเกาหลี) และปลาหรือเนื้อย่าง เป็นหลัก ในอดีตอาหารเช้าจะไม่แตกต่างจากอาหารมื้ออื่นๆมากนัก แต่จะต่างตรงที่จำนวนจาน (ใส่กับข้าว) ที่น้อยกว่าเท่านั้น แต่ในปัจจุบัน ผู้คนหันมารับประทานอาหารสไตล์ตะวันตกกันมากขึ้น เหมือนอย่างที่รับประทานกันในประเทศสหรัฐอเมริกา

วันเสาร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2551

140ที่สุดในโลก(ตอนสุดท้าย)

Image hosting by UpPicth.com
ประเทศที่มีแร่เหล็กมากที่สุด คือ สวีเดน
ประเทศที่เลี้ยงไหมมากที่สุด คือ จีน
ประเทศที่ผลิตนมมากที่สุด คือ สวิสเซอร์แลนด์
ประเทศที่ปลูกสับปะรดมากที่สุด คือ เกาะฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา
ประเทศที่ปลูกส้มมากที่สุด คือ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
ประเทศที่ผลิตพรมได้มากและคุณภาพดีที่สุด คือ เปอร์เซีย
ประเทศที่ขุดน้ำมันส่งออกมากที่สุด คือ ซาอุดิอาระเบีย
ชาติที่ประดิษฐ์เข็มทิศใช้ในการเดินเรือเป็นชาติแรก คือ จีน
บัตรอวยพรชนิดแรกในโลก คือ บัตรอวยพรวันวาเลนไทน์
ศาสนาที่มีคนนับถือมากที่สุด คือ ศาสนาคริสต์

Image hosting by UpPicth.comImage hosting by UpPicth.com

ศาสนาที่เก่าแก่ที่สุด คือ ศาสนาฮินดู
กำแพงที่ยาวที่สุด คือ กำแพงเมืองจีน
วัดที่ใหญ่ที่สุดในโลก คือ นครวัต ประเทศก้มพูชา
โรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก คือ โรงแรมลาสเวกัส ฮิลตัน รัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐอเมริกา
ตึกที่สูงที่สุดในโลก คือ ตึกเซียส์ ที่ชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา
ป่าที่ใหญ่ที่สุด คือ ป่ามหาวัน ประเทศอินเดีย
สะพานที่ยาวที่สุด คือ สะพานเซคอนด์ เลค พอนซาเทรน คอสเวย์ อยู่ที่ลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา
สะพานที่กว้างที่สุด คือ สะพานซิดนีย์ ฮาร์เบอร์ บริดจ์
สะพานแขวนที่ยาวที่สุด คือ สะพานพระราม 9 กรุงเทพมหานคร
ทางรถไฟที่ยาวที่สุด คือ ทรานส์ไซบีเรีย

Image hosting by UpPicth.com

อุโมงค์รถไฟที่ยาวที่สุด คือ อุโมงค์ซิมพลอน
สถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุด คือ สถานีแกรนด์ เซนทรัล เทอร์มินอล
ถนนที่ยาวที่สุด คือ ถนนเพน-อเมริกัน ไฮเวย์
เครื่องบินโดยสารที่ใหญ่ที่สุด คือ เครื่องบินเจ็ท โบอิ้ง 747
เรือเดินสมุทรที่ใหญ่ที่สุด คือ เรือควีน อลิซาเบธ
เรือบรรทุกน้ำมันที่ใหญ่ที่สุด คือ เรือซีวีส ไจเอ้น
ป่าที่ทึบที่สุดในโลก คือ ป่าเซลวาส ลุ่มแม่น้ำอะเมซอน
ต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุด คือ ต้นซานตา มาเรีย เด็ล ตูลี ในเม็กซิโก
ต้นไม้ที่อายุยืนที่สุดในโลก คือ ต้นสน Pinus longaeva รัฐแคลิฟอร์ฌนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
ดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก คือ ดอก Arnold 's Rafflesia เกาะสุมาตรา

Image hosting by UpPicth.comImage hosting by UpPicth.com

ปิรามิดที่ใหญ่ที่สุดในโลก คือ ปิรามิด Quetzalcoatl
คุกที่แข็งแรงที่สุดในโลก คือ คุกอัลคาตราส ในซานฟรานซิสโก
จัตุรัสที่ใหญ่ที่สุด คือ จัตุรัสเทียนอันเหมิง ปักกิ่ง
สิ่งก่อสร้างที่สวยงามที่สุด คือ สุสานหินอ่อนทัชมาฮาล เมืองอักรา ประเทศอินเดีย
ประเทศที่มีชื่อในการทำนาฬิกามากที่สุด คือ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์
ระฆังใบใหญ่ที่สุด คือ ระฆังซาร์โค โลโคล อยู่ที่ปราสาทอิวานเวลิกี้ พระราชวังเครมลิน มอสโค สหภาพโวเวียต
เพชรเม็ดใหญ่ที่สุดในโลก คือ เพชรคุลลินาน
หอสมุดที่ใหญ่ที่สุดในโลก คือ หอสมุดรัฐสภาอเมริกัน ในกรุงวอชิงตัน
นาฬิกาเรือนใหญ่ที่สุดในโลก คือ นาฬิกาบิกเบน กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
ดาวเคราะห์ที่อยู่ใกล้โลกมากที่สุด คือ ดาวศุกร์


Image hosting by UpPicth.comImage hosting by UpPicth.com

ดาวฤกษ์ที่มีแสงสว่างมากที่สุด คือ ดาวซิริอัส(Sirius) มีสีเขียวแกมน้ำเงิน
นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรก คือ นางศิริมาโว บันดาราไนยเก ประเทศศรีลังกา
มนุษย์อวกาศคนแรกของโลก คือ ยูริ กาการิน ชาวรัสเซีย
มนุษย์อวกาศหญิงคนแรกของโลก คือ วาเลนตินา วลาดิมิโรฟนา เทเรสโกวา ชาวรัสเซีย
ผู้ที่เดินเรือรอบโลกเป็นคนแรก คือ แม็คเจลแลน
สัตว์ที่มีจำนวนมากที่สุด คือ แมลง
สัตว์ที่มีอายุยืนที่สุด คือ เต่าทะเล
สัตว์บกที่มีขนาดใหญ่ที่สุด คือ ช้าง
สัตว์น้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุด คือ ปลาวาฬ
นกที่มีขนาดใหญ่ที่สุด คือ นกกระจอกเทศ


Image hosting by UpPicth.comImage hosting by UpPicth.com

สัตว์ที่มีเสียงดังมากที่สุด คือ ปลาวาฬสีน้ำเงิน
สัตว์ที่เคลื่อนที่ได้เร็วที่สุด คือ เหยี่ยวฟิรีกริน
สัตว์ที่เคลื่อนที่ได้ช้าที่สุด คือ ปู ในบริเวณทะเลแดง
นกที่มีอายุยืนที่สุด คือ กา
นกที่ตัวเล็กที่สุด คือ นกฮัมมิ่ง
นักที่บินเร็วที่สุด คือ นกอินทรี
นกที่มองได้ไกลที่สุด คือ เหยี่ยว
นกที่ตาไวที่สุด คือ แร้ง
สัตส์ที่สายตาสั้นและดุร้ายที่สุด คือ แรด
ปลาที่ร้ายกาจที่สุด คือ ปลาปิรันยา

Image hosting by UpPicth.com Image hosting by UpPicth.com

สัตว์ที่วิ่งเร็วที่สุดในโลก คือ เสือชีต้า
สัตว์ที่หนังหนาที่สุดในโลก คือ แรด
ไก่ที่ไข่ดกที่สุด คือ ไก่พันธุ์เล็กฮอร์น
ธาตุที่เบาที่สุด คือ ธาตุไฮโดรเจน
ประเทศที่มีอัตราการเกิดมากที่สุด คือ ประเทศมาลาวี ทวีปแอฟริกา
ประเทศที่มีอัตราการเกิดน้อยที่สุด คือ นครรัฐวาติกัน
ประเทศที่มีอัตราการตายมากที่สุด คือ ประเทศอัฟกานิสถาน
ประเทศที่จัดว่ามีประชากรอายุยืนที่สุด คือ ประเทศญี่ปุ่น
ประเทศที่ประชากรมีอายุเฉลี่ยต่ำสุด คือ เซียร์ราลีโอน

...The End...

วันเสาร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2551

140ที่สุดในโลก(ตอนที่1)

140ที่สุดในโลก(ตอนที่1)






ทวีปที่ใหญ่ที่สุดในโลก คือ ทวีปเอเซีย

ทวีปที่เล็กที่สุดในโลก คือ ทวีปออสเตรเลีย
คาบสมุทรที่ใหญ่ที่สุดโลก คือ คาบสมุทรอาหรับ
มหาสมุทรที่ใหญ่ที่สุด คือ มหาสมุทรแปซิฟิก
มหาสมุทรที่เล็กที่สุดในโลก คือ มหาสมุทรแอนตาร์กติก
ทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลก คือ ทะเลจีนใต้
ทะเลที่ลึกที่สุดในโลก คือ บริเวณ Challenger ใกล้เกาะมาเรียนา ในมหาสมุทรแปซิฟิก
ทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลก คือ ทะเลสาบแคสเปียน อยู่ระหว่างทางใต้ของรัสเซียกับอิหร่าน
ทะเลสาบที่มีน้ำเค็มมากที่สุดในโลก คือ ทะเลสาบเดดซี อยู่ระหว่างอิสราเอลกับจอร์แดน



Image hosting by UpPicth.com



ทะเลสาบน้ำจืดที่ลึกที่สุดในโลก คือ ทะเลสาบไบคาล ในไซบีเรีย ประเทศรัสเซีย
ทะเลสาบที่ตั้งอยู่สูงที่สุดในโลก คือ ทะเลสาบกัลลาเซียล ในธิเบต
ทะเลสาบที่มนุษย์สร้างขึ้นที่ใหญ่ที่สุดในโลก คือ ทะเลสาบมืด เหนือเขื่อนระหว่างรัฐเนวาดากับอริโซนา
อ่าวที่ใหญ่ที่สุดในโลก คือ อ่าวแม็กซิโก
ปากแม่น้ำที่กว้างที่สุดในโลก คือ ปากแม่น้ำออฟเฟน โพรเซ็น ออ็ป ประเทศรัสเซีย
แม่น้ำที่ยาวที่สุดในโลก คือ แม่น้ำไนล์ ทวีปแอฟริกา
แม่น้ำที่สั้นที่สุดในโลก คือ แม่น้ำดีริเวอร์ รัญโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา
แม่น้ำที่กว้างที่สุดในโลก คือ แม่น้ำอะเมซอน ทวีปอเมริกาใต้
แม่น้ำที่เกิดอุทกภัยมากที่สุดในโลก คือ แม่น้ำฮวงโห หรือแม่น้ำวิปโยค ประเทศจีน
คลองธรรมชาติที่ยาวที่สุดในโลก คือ คลองยุ่นโห ประเทศจีน



Image hosting by UpPicth.com


คลองที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจมากที่สุดในโลก คือ คลองสุเอช
หมู่เกาะที่มีเกาะต่างๆอยู่หนาแน่นที่สุด คือ หมู่เกาะอินดีส
ช่องแคบที่ยาวที่สุดในโลก คือ ช่องแคบตาต้า
เกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก คือ เกาะกรีนแลนด์ มหาสมุทรอาร์คติก
ยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก คือ ยอดเขาเอเวอเรสต์
เทือกเขาที่ยาวที่สุดในโลก คือ เทือกเขาแอนดีส ทวีปอเมริกาใต้
ช่องแคบระหว่างภูเขาที่ใหญ่ที่สุดในโลก คือ ช่องแคบบนแกรนด์แคนยอน รัฐอริโวน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา ยอดภูเขาไฟที่สวยและสูงที่สุดในโลก คือ ภูเขาไฟฟูจิยามา ประเทศญี่ปุ่น
ทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดและร้อนที่สุดในโลก คือ ทะเลทรายซาฮาร่า ในแอฟริกาเหนือ
น้ำตกที่มีทัศนียภาพสวยงามและใหญ่ที่สุดในโลก คือ น้ำตกไนแองการา อยู่ระหว่างสหรัฐอเมริกาและแคนาดา



Image hosting by UpPicth.com



ประเทศน้ำตกที่สูงที่สุดในโลก คือ น้ำตกแองเจิล ประเทศเวเนซูเอลา
ประเทศที่มีเนื้อที่มากที่สุดในโลก คือ รัสเซีย
ประเทศที่เล็กที่สุดในโลก คือ นครรัฐวาติกัน
ประเทศที่พลเมืองมากที่สุดในโลก คือ จีน
เมืองที่มีพลเมืองมากที่สุดในโลก คือ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
ประเทศที่มีพลเมืองน้อยที่สุดในโลก คือนครรัฐวาติกัน
ประเทศที่มีเกาะมากที่สุดในโลก คือ ฟิลิปปินส์
ประเทศที่มีทะเลสาบมากที่สุดในโลก คือ ฟินแลนด์
ประเทศที่มีภูเขาไฟมากที่สุดในโลก คือ อินโดนีเซีย
ประเทศที่อยู่สูงที่สุดในโลก คือ ทิเบต



Image hosting by UpPicth.com



ประเทศที่มีพื้นที่ต่ำที่สุดในโลก คือ อิสราเอล
ประเทศที่มีแผ่นดินไหวบ่อยที่สุด คือ ญี่ปุ่น
ประเทศที่มีภาษามากที่สุดในโลก คือ อินเดีย
ประเทศที่มีเมืองขึ้นมากที่สุด คือ อังกฤษ
เมืองที่มีคลองมากที่สุด คือ เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
ประเทศที่ขุดแร่ดีบุกมากที่สุด คือ มาเลเซีย
ประเทศที่ปลูกกาแฟมากที่สุด คือ บราซิล
ประเทศที่ผลิตกระดาษมากที่สุด คือ แคนาดา
ประเทศที่ขุดเพชรได้มากที่สุด คือ สหภาพแฟริกาใต้
ประเทศที่มีแร่เงินมากที่สุด คือ เม็กซิโก




Image hosting by UpPicth.com



ประเทศที่มียางพารามากที่สุด คือ มาเลเซีย
ประเทศที่มีทับทิมมากที่สุด คือ พม่า
ประเทศที่มีทองคำขาวมากที่สุด คือ รัสเซีย
ประเทศที่มีแร่พลวงมากที่สุด คือ จีน
ประเทศที่ขุดสินแร่อลูมิเนียมได้มากที่สุด คือ สวิสเซอร์แลนด์
ประเทศที่ผลิตหินอ่อนมากที่สุด คือ อิตาลี
ประเทศที่ผลิตแร่ปรอทได้มากที่สุด คือ สเปน
ประเทศที่มีถ่านหินมากที่สุด คือ สหรัฐอเมริกา
ประเทศที่มีแมงกานีสมากที่สุด คือ อินเดีย
ประเทศที่ประดิษฐ์และส่งดาวเทียมประเทศแรก คือ สหภาพโซเวียตรัสเซีย



Image hosting by UpPicth.com



ประเทศที่ส่งมนุษย์อวกาศไปดวงจันทร์ได้สำเร็จประเทศแรก คือ สหรัฐอเมริกา
ประเทศที่จับปลาได้มากที่สุด คือ ญี่ปุ่น
ประเทศที่ผลิตเหล้าองุ่นมากที่สุด คือ ฝรั่งเศศ
ประเทศที่ผลิตเบียร์มากที่สุด คือ เยอรมัน
ประเทศที่ปลูกอ้อยมากที่สุด คือ คิวบา
ประเทศที่มีต้นควินินมากที่สุด คือ อินโดนีเซีย
ประเทศที่ปลูกขายสาลีมากที่สุด คือ รัสเซีย
ประเทศที่ปลูกชามากที่สุด คือ จีน
ประเทศที่ปลูกฝ้ายมากที่สุด คือ สหรัฐอเมริกา
ประเทศที่มีปลูกข้าวเจ้าพันธุ์ดีที่สุด คือ ไทย



...ติดตามตอนต่อไป อีก70เรื่องที่สุดในโลก...



วันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

หอไอเฟล...





หอไอเฟล (Eiffel) สัญลักษณ์ของนครปารีส สร้างขึ้นใน ค.ศ.1887-9 ออกแบบโดยวิศวกรที่มีชื่อเสียงของฝรั่งเศสชื่อ กุสตาฟ ไอเฟล (Gustave Eiffel) เพื่อเป็นสัญลักษณ์การจัดงานแสดงสินค้าโลกในปี 1889 (พ.ศ. 2413) ฉลองครบรอบ 100 ปีแห่งการปฏิวัติอุตสาหกรรม

ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในทางลบว่า ทำลายความงดงามของกรุงปารีสด้วยโครงเหล็กน่าเกลียด อยู่ ๆ มีโครงเหล็กสูงโด่งขวางตาพวกเขา เพราะมันทำขึ้นจากโลหะ 15,000 ชิ้น หนักถึง 7,000 ตัน ยึดต่อด้วยน๊อต 3,500,000 ตัว สีทาทั้งหมด 35 ตัน สูง 1,050 ฟุต สิ้นเงินค่าก่อสร้าง 7,799,401 ฟรังก์ เสียเวลาสร้าง 1 ปี มีลิฟต์พาชมวิวได้สูงถึงยอดหอซึ่งมีร้านอาหารที่สามารถนั่งชมวิวได้ทั่วทั้งกรุงปารีส และชมความงามของแม่น้ำเซนด้วย สุดท้ายหอไอเฟลกลับเป็นสถานที่ยอดนิยม ใครต่อใครที่มาปารีสต้องถ่ายรูปด้วยตามธรรมเนียม หอนี้เคยเป็นอาคารสูงที่สุดในโลกสมัยแรก จนกระทั่งตึกเอ็มไพร์เสตท สร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1931

ในวันที่อากาศดีอาจขึ้นไปชมวิวได้ถึงชั้นสูงสุดที่ 899 ฟุต ยามค่ำคืน หอไอเฟลจะเปิดไฟสวยงามมาก และมุมที่ดีที่สุดที่จะถ่ายภาพหอไอเฟล คือ บริเวณ Trocadero มีทั้งร้านขายของที่ระลึก และภัตตาคาร เปิดทุกวันเวลา 9.30-23.00 น. ค่าขึ้นลิฟต์ชม ชั้นแรก 20 ฟรังค์ ชั้นแรกและชั้นสอง 42 ฟรังค์ ชั้นแรก/ชั้นสอง/ชั้นสาม 59 ฟรังค์