วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

10 เคล็ดลับพิชิตสูตรคำนวณ

1. ปิดคอมพิวเตอร์ ปิดทีวี เพลง หรือสิ่งเร้าที่เราคิดว่า เราอ่านหนังสือนานไม่ได้แน่ๆ ไม่มีสมาธิแน่ๆ ให้ปิดไปเลย หรือนำมันไปไกลๆเลย
2. ห้ามนั่งอ่านหนังสือ หรือนอนอ่านหนังสือบนเตียงเด็ดขาดดดด!! เพราะรับรองได้เลยว่า คุณอ่านไปไม่ถึง 2 ชั่วโมง หนังตาของเราอาจจะเริ่มปิดก็เป็นได้
3. เตรียมหนังสือพวกที่เป็นตะลุยโจทย์ ,หนังสือเรียน ,หนังสือคู่มือที่มีเนื้อหาบทเรียน ,หนังสือสรุปสูตรในแต่ละบท
4. ขอสมุดคู่ใจ ที่เราคิดว่าชอบเล่มนี้ อยากเขียนลงไป อยากพกติดตัว จะมีเส้นหรือไม่มีเส้นก็ได้ตามความถนัดของแต่ละคนเลย
5. เตรียมปากกาสี,ปากกาเน้น ไว้ข้างๆ กายเลย เพื่อช่วยในการจดจำ น่าอ่านอีกด้วย
6. เมื่อเตรียมอุปกรณ์ ครบพร้อมหมดแล้ว ขอให้คุณหลับตานั่งนิ่งๆ สัก 3-5 นาที หรือจะเปิดเพลงบรรเลงเบาๆ หรือเพลงโมสาร์ท หลับตานั่งฟังสัก 1 เพลงจบก็ได้
7. เปิดหนังสือเรียน หรือหนังสือคู่มือ ที่มีเนื้อหาของบทเรียนที่เราจะอ่าน แล้วเริ่มจดสูตร หรือข้อความสรุป ข้อความสำคัญเขียนแบบสั้นๆ และสรุปอย่างได้ใจความ ลงไปในสมุดเล่มโปรด แล้วสามารถนำปากกาสีมาเขียนมิกส์กันให้น่าอ่านได้ด้วย ข้อความไหนสำคัญก็ให้ใช้ปากกาเน้นไว้เลยย
สำหรับบางคนที่ไม่ชอบอ่านแล้วต้องมานั่งสรุปในสมุด ก็สามารถใช้ปากกาสีขีดใต้ข้อความสำคัญ หรือใช้ปากกาเน้นข้อความลงไปในหนังสือคู่มือหรือหนังสือเรียนเลยก็ได้
8.เมื่อได้เนื้อหาสาระสำคัญๆ รวมถึงสูตรต่างๆแล้ว ก็ขอให้ลองนั่งท่องจำสักพักนึง จนคิดว่าน่าจะจำได้แล้ว และลองปิดหนังสือ ปิดสมุด เขียนสูตรที่เราจำได้,ข้อความหรือทฤษฎีที่เราท่องไว้นั้น มาเขียนในเศษกระดาษดูหลังจากนั้นตรวจทานและเช็คดูในหนังสือว่า ตรงกันกับที่เราเขียนไหม สูตรครบหรือเปล่า ทฤษฎีแม่นจริงไหม
9. เมื่อเราจำสูตร ทฤษฎี ข้อความที่เราสรุปได้แล้ว ก็นำหนังสือตะลุยโจทย์มานั่งทำโจทย์ไปเลย หากลืมสูตรก็เปิดดูสูตรนั้นอีกครั้ง และทำโจทย์ที่ใช้สูตรนั้นหลายๆ ข้อ มันจะทำให้เราสามารถจำสูตรได้เองอัตโนมัติ บางทีโจทย์แต่ละข้อนั้น ก็จะมีการพลิกแพลงสูตรด้วย เพราะฉะนั้นต้องฝึกทำโจทย์หลายๆ แนว หลายๆ ข้อ ย้ำ!! สูตรและทฤษฎีต้องจำและแม่นจริงๆด้วยนะ
10. เมื่อตะลุยฝึกโจทย์ไปแล้วจนเราเริ่มจำสูตรได้จริงๆ เริ่มรู้แนวโจทย์ของแต่ละบทแต่ละสูตรแล้วขอให้คุณลองเขียนทฤษฎี สูตรทั้งหมด ข้อความที่สำคัญๆ ลงในกระดาษว่างๆ 1 แผ่น เขียนเท่าที่จำได้"แล้วลองคิดสิว่า ที่เราจำได้เท่านี้ จะดีพอไปสู่การสอบได้แล้วหรือยัง"

วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

9 วิธี “ทำอย่างไร...ถึงจะไม่หลับคาโต๊ะกวดวิชา”

1. ถ้ารู้ว่าตัวเองต้องเข้าเรียนแต่เช้า : ก็อย่าดูหนังดูละครจนดึกเกินสี่หรือห้าทุ่ม เพราะเวลานอนที่ขาดไปมันมักจะมาเอาคืนช่วงเรียนพิเศษที่มีอาจารย์ในดีวีดีมากล่อมเสมอ ข้อนี้สำคัญมาก เพราะหากนอนดึกแล้ว ก็ไม่มีวิธีไหนที่จะมาทำให้เราหายง่วงได้ นอกจากไปกินกระทิงแดง (แต่ก็ไม่แนะนำว่าไม่ดีต่อสุขภาพ)

2. พกขนมหรือน้ำเข้าไปด้วย : แต่ !!! ห้ามกินตั้งแต่เริ่มเรียน เพราะจะทำให้ง่วงง่ายมากกกกก ให้กินเมื่อเริ่มง่วงเท่านั้น (บางทีลองซื้อขนมที่เวลาแกะแล้วเสียงดังๆ เพราะเวลาแกะขนมนั้นจะทำให้เราตื่นเต้นและกลัวว่าคนข้างๆ จะด่า (มันมีวิธีอย่างนี้ด้วยเรอะ) ทำให้ตาสว่าง แต่ถึงอย่างไร ถ้าคิดว่าจะรบกวนคนข้างๆ ละก็ ก็ให้ซื้อขนมจุกจิกเล็กๆน้อยๆไปแทน) เมื่อหายง่วงก็ให้หยุดกินแล้วตั้งใจเรียนต่อไปซะ

3. อุปกรณ์สำหรับเรียนกวดวิชา : สำคัญนะคะ เพราะเวลาเราง่วงๆ ก็หยิบปากกาสี หรือพวกไฮไลท์มาวาดๆ เขียนในหนังสือให้มันคัลเลอร์ฟูลไปเลย แต่อย่าทำให้เลอะเทอะไป เพราะเวลาทบทวนหนังสืออาจจะทำให้เรามึนได้ ให้วาดๆ เขียนๆ ด้านหลังหนังสือก็ได้ หรือไม่ก็เวลาอาจารย์ให้เน้นอะไรก็ใส่สีให้พอสวยงามก็ทำให้เราหายง่วงได้เช่นกันค่ะ แต่ถึงยังไงก็ต้องตั้งใจฟังอาจารย์อย่ามัวแต่วาดเพลินนะคะ

4. ฝึกจินตนาการผ่านกวดวิชา : ลองมองดูอาจารย์สอนกวดวิชาสิคะ ท่านจะมีอะไรให้เราได้จินตนาการไปเรื่อยเปื่อยอยู่เสมอ ตั้งแต่คำพูดติดปากของอาจารย์ สีเสื้อผ้า ทรงผม เสียงหัวเราะของอาจารย์ บางที...มุขฝืดๆของอาจารย์ก็ช่วยพวกเราจากความง่วงงันได้เหมือนกันนะ

5. สำหรับคนที่ชอบหลับคาโต๊ะกวดวิชา : เราขอแนะนำ!! ให้ลองก้มลงไปนอนโต๊ะคนอื่นดูค่ะ (หา!!) แล้วจะไม่ง่วงอีกเลย (แต่จะได้เบ้าตาหมีแพนด้ามาแทน ...อ้าว)

6. ตั้งใจฟังอาจารย์ : เรียนให้เต็มที่ คำนวณอะไรก็คิดๆๆๆๆๆ คิดผิดก็คิดมันไป อาจารย์เฉลยว่าผิดแล้วก็ลบแอบๆ หน่อย (อายคนข้างๆ) พอเวลาคำนวณถูกก็เปิดมันเลย! ดูเส่ะๆพวกหล่อน ฉันคิดถูก ว่ะฮ่าๆๆๆ

7. สำหรับคนที่กินขนมแล้วชอบหลับ : แนะนำค่ะ ลูกอมรสเปรี้ยวๆ กินแล้วตื่นเต็มตาเลยค่ะ (แต่ถ้ากินบ่อยๆอาจทำให้คุณชินและหลับได้แม้กระทั้งในปากเปรี้ยวจี้ด) หรือไม่ก็ลูกอมมิ้นท์เย็นๆ แบบว่าเย็นสุดขั้ว กินแล้วเย็นไปถึงรูขุมขนได้ยิ่งดี นั่นจะทำให้คุณตื่น (แต่บางคนอาจจะหลับ) เรื่องลูกอมต้องค่อยๆลองไปสลับไปได้เรื่อยๆ ยิ่งดี วันนึงก็รสนึง อีกวันก็รสใหม่ จะทำให้เราไม่คุ้นและไม่ง่วง

8. หากเรียนไปแล้วเริ่มจะเข้าเฝ้าเทวดา : ให้นึกถึงเวลาที่ใกล้จะหมดสิคะ นั่นอาจจะทำให้รู้สึกลัลล้าและตื่นเต็มตาได้ แต่ถ้าหากเพิ่งจะเริ่มเรียนแล้วง่วงละก็ ลองไปล้างหน้าล้างตาดูนะคะ

9. บรรยากาศในห้องเรียน : เป็นส่วนหนึ่งทำให้เคลิ้มได้ บางทีก็เย็นจนปอดจะแข็งตาย บางทีก็ร้อนตับจะออกมานอกร่าง ขอแนะนำว่าให้ลองใจกล้าเดินไปบอกพี่ที่คุมเลยค่ะ ว่าร้อนหรือหนาว จะได้ไม่รู้สึกเคลิ้มหรือไม่เครียดขณะเรียน